การตรวจสอบตรวจสภาพโฟล์คลิฟท์ก่อนใช้งานประจำวันแบ่งออกเป็น 3 ลำดับคือ
- วิธีตรวจสอบตรวจสภาพฯ ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ (Pre-Check)
- วิธีตรวจสอบตรวจสภาพฯ หลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Functional Check)
- วิธีตรวจสอบตรวจสภาพฯ หลังจากจอด (Parking Check)
กรณีตรวจสอบตรวจสภาพก่อนใช้งานประจำวัน และพบความผิดปกติหรือความบกพร่องของโฟล์คลิฟท์, ให้แจ้งหัวหน้างานทันที การตัดสินใจในการหยุดหรือให้ใช้งานต่อด้วยเงื่อนไขใด ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้างาน
ตรวจสอบก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ (Pre-Check)
- ตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์-ดึงก้านวัดระดับน้ำมันหล่อลื่นขึ้นมา ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด ดันคืนกระทั่งสุดและดึงออกมาอ่านค่าระดับ ระดับต้องอยู่ระหว่าง Upper กับ Lower หากระดับต่ำน้ำมันหล่อลื่นอาจรั่วไหลออกนอกระบบ-หากสูงอาจมีน้ำหล่อเย็นรั่วไหลลงอ่างน้ำมันหล่อลื่น
- ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำสำรอง
- ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิกส์
- ตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อลื่นห้องเกียร์
- หากเป็นแบตเตอรีแบบเปียก ให้ตรวจระดับน้ำกลั่น แบตเตอรีแบบเปลือกทึบให้เปิดฝาจุกช่องเซลล์เพื่อตรวจสอบ ต้องไม่มีประกายไฟ ทั้งนี้เนื่องจากจะมีก๊าซไฮโดรเจน (H2) ซึ่งเป็นก๊าซไวไฟ อาจทำให้เกิดการระเบิดได้
- ตรวจสอบสภาพยางและสภาพล้อ-qตรวจสอบสภาพดอกยาง qตรวจสอบสภาพกะทะล้อและน๊อตยึด สำหรับอุตสาหกรรมอาหารบางประเภทซึ่งต้องใช้โฟล์คลิฟท์ชนิดล้อไม่มีดอกยางในงานขนถ่าย ลักษณะดังกล่าวนี้ให้ดูระยะใช้งานด้านข้างขอบยาง ว่าสึกถึงระยะที่กำหนดไว้แล้วหรือยัง หากเป็นโฟล์คลิฟท์ขนาดใหญ่เช่น 15 ตันขึ้นไป บางรุ่นยางจะเป็นแบบจุ๊บเลสเติมลม ให้ตรวจสอบความดันลมยางด้วยเกจวัดความดันก่อนใช้งานทุกวัน
- ตรวจสอบสภาพงายกและแผงงา-qตรวจสอบสภาพงายก การแตกร้าว การสึกของโคนงาและปลายงา ตรวจสอบสภาพแผงงาและการยึดแน่นของแผงงา
- ตรวจสอบหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Functional Check)
Note-การตรวจสอบลำดับนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้คนอยู่ด้านหน้าและด้านหลังโฟล์คลิฟท์
ตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิงโดยดูจากเกจวัดระดับฯ แผงหน้าปัทม์, หากเป็นโฟล์คลิฟท์ขนาดใหญ่เช่นขนาดโตกว่า 20 ตัน บางรุ่น บางยี่ห้อ จะมีหลอดตาแก้ว (Level glass gauge) อยู่ด้านข้างตัวรถ แม้รถยังไม่สตาร์ทก็ตรวจเช็คระดับน้ำมันเชื่อเพลิงได้
ตรวจสอบการทำงานของเกจวัดบนแผงหน้าปัทม์
- ตรวจสอบการทำงานของระบบไฮดรอลิกส์ โดยควบคุมให้งาทำงาน 4 ทิศทางคือ qควบคุมงาตามแนวดิ่งขึ้นสุด, qควบคุมงาตามแนวดิ่งลงและหยุดเมื่อระดับสูงจากพื้นประมาณ 30 เซนติเมตร, qควบคุมงา-คว่ำสุด, qควบคุมงา-หงายสุด /การทำงานของไฮดรอลิกส์และระบบงายกที่สมบูรณ์ การเคลื่อนที่ต้องเรียบไม่สะดุด
- ตรวจสอบการทำงานของระบบบังคับเลี้ยวและทดสอบระบบเบรค โดยให้ควบคุมโฟล์คลิฟท์ดังนี้-เดินหน้าประมาณ 2 เมตรและเบรค ถอยหลังประมาณ 2 เมตรและเบรค เดินหน้า เลี้ยวซ้ายประมาณ 2-3 เมตรและเบรค เดินหน้า เลี้ยวขวาประมาณ 2-3 เมตรและเบรค
- ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์และการทำงานของห้องเกียร์-ฟังเสียงดังที่ผิดปกติและลักษณะการสั่นกระพือขณะทำงาน
- ตรวจสอบไฟส่องทำงาน
- ทดสอบการทำงานของแตร
- ทดสอบและตรวจสอบการทำงานของไฟสัญญาณ-ไฟเตือนการทำงานหรือไฟวับวาบ, qไฟเลี้ยวซ้ายขวา, qสัญญาณไฟถอยหลังและสัญญาณเสียงถอยหลัง
- ตรวจสอบความตึงหย่อนของโซ่ขับเคลื่อนแผงงา-ยืนยันว่าโฟล์คลิฟท์อยู่ทีเกียร์ว่าง ควบคุมเสาโฟล์คลิฟท์ ดิ่งและควบคุมระดับให้สูงจากพื้นประมาณ 10-30 เซนติเมตร ดับเครื่องยนต์ ดึงเบรคมือและลงไปหน้ารถฯ ใช้หัวแม่มือกดโซ่ซ้ายขวาพร้อมกันเพื่อตรวจสอบความตึงหย่อน
ตรวจสอบหลังจอดเลิกใช้งานประจำวัน (Parking Check)
- จอดโฟล์คลิฟท์บนพื้นที่ซึ่งหน่วนงานฯ กำหนดให้
- ปลดเกียร์ว่าง
- ดึงเบรคมือ
- ควบคุมงาคว่ำหน้าประมาณ 5-10 องศา และลดระดับให้ปลายงาถึงพื้น
- ดับเครื่องยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก รณรงค์ แสงตะเกียง